วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สลด! พิษรักสามเส้า 2 หนุ่มสาวบุรีรัมย์คิดคว้า 9 มม.จ่อขมับดับทั้งคู่

บุรีรัมย์ - สลด 2 หนุ่มสาว แก้ปัญหาปมรักสามเส้าไม่ตก ควบ
จยย.ยึดป้อมยามร้างทางเข้าค่ายลูกเสือ เคลียร์ปัญหารักแก้ไม่ตก โทรฯ
แจ้งน้าสาวมารับศพ ก่อนลั่นไกปืน 9 มม. เข้าขมับแฟนสาวตายต่อหน้า
จากนั้นหันปากปืนจ่อขมับตัวเองจบชีวิตรักทั้งสองคน

ช่วงบ่ายวันนี้ ( 25 มิ.ย.) พ.ต.ต.สยาม เกียรติบรรจง สารวัตเวรฯ
สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุวัยรุ่นยิงกันตาย 2 ศพ
บริเวณข้างป้อมยาม ทางเข้าค่ายลูกเสือ บ้านน้ำซับ หมู่ 13 ต.เสม็ด
อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์
ผบก.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.วีรวรรธน์ เธียรสุวรรณ รอง ผบก.บุรีรัมย์
พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.ทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์

ที่เกิดเหตุบริเวณป่าเขากระโดง ห่างจาก ถนนสายบุรีรัมย์- สุรินทร์
ประมาณ 10 เมตร ตรงป้อมยาม ทางเข้าค่ายลูกเสือบุญญานุศาสน์
พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูศพ 2 วัยรุ่น ชายหญิงนอนเสียชีวิตใกล้
กับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน กลว 554 บุรีรัมย์
ที่ตะแกรงด้านหน้ามีน้ำอัดลมว่างอยู่ 1 ขวด

ทราบชื่อผู้ตาย คือ น.ส.ปนัดดา แก้วศรี อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่
186 หมู่ 18 บ.หนองปรือพัฒนา ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สภาพศพ
ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ดาวแดง จำนวน 1 นัด
เข้าที่ขมับซ้ายทะลุหางคิ้วขวา นอนเสียชีวิต โดยมีร่างนายฉลาด เกรยรัมย์
อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 17 บ.เอกมัย ต.สวายจึก อ.เมือง
จ.บุรีรัมย์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาดเดียวกัน จำนวน 1 นัด
เข้าที่ขมับขวาทะลุเหนือหูซ้าย นอนเสียชีวิตทับร่าง น.ส.ปนัดดา
จมกองเลือดเป็นที่น่าสยดสยอง และ ยังพบปืนขนาด 9 มม.
ตกอยู่ระหว่างขาบนแขนของผู้ตายทั้งสอง ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่
จำนวน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางสาวแอ๋ว ไชยสุวรรณ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132
หมู่ 17 บ.สวายจีก ต.สวายจีก อ.เมือ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นน้าสาวของ
นายฉลาด ผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อประมาณช่วงเที่ยงวันเศษ ของวันนี้ นายฉลาด
ได้โทรศัพท์เข้ามือถือของตนแต่หลานเป็นคนรับ บอกว่า ให้มารับศพนายฉลาด
ด้วย ตรงบริเวณป้อมยามทางเข้าค่ายลูกเสือ แต่ตนคิดว่าหลานชายพูดเล่น
จึงไม่สนใจ จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง
ได้โทรศัพท์กลับเข้ามือถือนายฉลาด แต่ไม่มีคนรับโทรศัพท์
จึงพากันมาดูตรงป้อมยามตามที่นายฉลาดบอก
และตกใจเมื่อพบศพนายฉลาดนอนเสียชีวิตกับนางสาวปนัดดา แล้ว
ก่อนจะโทรศัทพ์แจ้งตำรวจ

ด้าน นายสมจิตร เกรยรัมย์ บิดา นายฉลาด ผู้ตาย กล่าวว่า
ลูกชายไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ นานๆ จะกลับมาบ้านสักครั้ง
และครั้งนี้เพิ่งกลับมาบ้านได้ 3 วัน โดยลูกชายได้คบหากับ น.ส.ปนัดดา
เมื่อเดือน มกราคม 2552 ที่ผ่านมา น.ส.ปนัดดา ได้ไปมาหาสู่กับลูกชายประจำ
จนเป็นที่รับรู้ของคนในหมู่บ้าน แต่ น.ส.ปนัดดา
มีสามีแล้วเป็นเพื่อนกับลูกชายตนด้วย และอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

"ตั้งแต่เช้าไม่เจอลูกชาย เพราะออกไปทุ่งนา
จนกระทั่งบ่ายหลานไปบอกว่า ลูกชาย ถูกยิงเสียชีวิต
ไม่คิดว่าลูกชายจะแก้ปัญหาชีวิตด้วยวิธีนี้
น่าจะมาปรึกษาพ่อแม่หาทางแก้ออกของปัญหาร่วมกันจะดีกว่า"นายสมจิตร กล่าว

ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่ากับผู้สื่อข่าว ว่า น.ส.ปนัดดา
มักจะถูกสามีใช้กำลังตบตีประจำ จนน.ส.ปนัดดาทนไม่ไหวบอกเลิก
แต่สามีของน.ส.ปนัดดา ก็ยังไปมาหาสู่กับน.ส.ปนัดดา เป็นปกติ มาระยะหลัง
น.ส.ปนัดดา ได้มาคบกับ นายฉลาด และพยายามจะเคลียร์ปัญหารักกับสมี
เพื่อมาคบกับนายฉลาด อย่างจริงจัง แต่ไม่สามารถเคลียร์ได้
คาดว่าสุดท้ายจึงใช้หนทางจบชีวิตทั้งสองคนเป็นทางออกแทน

ทั้งนี้ น.ส.ปนัดดา นั้น พ่อแม่ แยกทางกัน พ่อ อยู่ที่กรุงเทพฯ
แม่อยู่ที่ จ.สุรินทร์ ส่วน น.ส.ปนัดดา มาอยู่กับยาย ที่ บ.หนองปรือพัฒนา
ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และได้สามีที่บ้านสวายจีก
อยู่กินกันมากว่า 2 ปี ไม่มีบุตร
ก่อนจะมาคบหากับนายฉลาดและจบชีวิตลงทั้งสองดังกล่าว

พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
กล่าวภายหลังร่วมตรวจสอบที่เหตุและสอบสวนญาติผู้ตายว่า
ผู้ตายทั้งสองได้พากันนั่งรถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุเพื่อตกลงเคลียร์ปัญหา
รักสามเส้า ที่ยังเป็นปมปัญหาอยู่ เพราะ น.ส.ปนัดดา มีสามีอยู่แล้ว
แต่คาดว่าไม่สามารถเคลียร์ปัญหาได้

จากนั้นนายฉลาดได้โทรศัพท์บอกน้าสาวให้มารับศพด้วย
จึงได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวมาด้วย จ่อยิงเข้าที่ขมับแฟนสาว
ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันลั่นไกปิดชีวิตตัวเองตายตามดังกล่าว
ส่วนสาเหตุอื่นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนได้สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงการ
ตายของทั้งสองคนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น