วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บุรีรัมย์แกนนำ 3 กลุ่มขู่แจ้งจับ จนท.รัฐ - ปล่อยบุกยึดป่าดงใหญ่/ยื้อให้ชาวบ้านเช่า

บุรีรัมย์ - แกนนำ 3 กลุ่มชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ ลั่นแจ้งจับเจ้าหน้าที่รัฐ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ชาวบ้าน 170
ครอบครัว บุกยึดพื้นที่ป่าสงวนดงใหญ่ที่เอกชนเช่าและหมดสัมปทานก่อนได้รับอนุญาต
8,400 ไร่ พร้อมขู่เข้าไปบุกยึดพื้นที่ป่าเช่นกัน
หากล่าช้ายื้อเวลาไม่จัดสรรป่าดงใหญ่ที่เอกชนหมดสัญญาเช่ากว่า 2.3
หมื่นไร่ ให้ชาวบ้านกว่า 3,000 คนได้เช่าทำกิน

ช่วงบ่ายวันนี้ (3 มิ.ย.)
ภายหลังทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้เรียกประชุมคณะกรรมการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณาจัดสรรที่ทำดินทำกิน
และแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง
ที่ศาลาประชาคมจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายพินิจ บุญเลิศ
รองผู้ว่าราชการบุรีรัมย์ เป็นประธานในการประชุม
แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้กลับเสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่
อีกชุด จึงสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มแกนนำ
และตัวแทนชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังการประชุมเป็นอย่างมาก

ต่อมาแกนนำ 3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง
อ.โนนดินแดง กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และกลุ่มอนุรักษ์ป่าดงใหญ่ 4
อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันออกมาแถลง
เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ชาวบ้าน ม.1 และ ม.10 ต.ลำนางรอง
กว่า 170 ครัวเรือน เข้าไปบุกยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ในปี 2552
รวมพื้นที่กว่า 8,400 ไร่ ใน 1 ในจำนวน 9 แปลง
ที่บริษัทเอกชนได้เช่าปลูกป่าเศรษฐกิจ และหมดสัญญาสัมปทาน

รวมทั้งเจ้าหน้าที่ยื้อไม่ปฏิบัติตามมติสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
(อบต.) ลำนางรอง
ที่มีมติเห็นชอบให้บริษัทเอกชนเช่าปลูกป่าเศรษฐกิจครึ่งหนึ่ง
และให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินเช่าทำกินอีกครึ่งหนึ่ง

ด้าน นายสมนึก ปัดชา เลขานุการกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง
อ.โนนดินแดง กล่าวว่า แกนนำทั้ง 3 กลุ่ม ได้ยื่นคำขาด หากภายในวันที่ 5
มิ.ย.ที่จะถึงนี้
ทางภาครัฐยังไม่เข้าไปดำเนินการผลักดันชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวออกจากพื้นที่
ป่า ชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินกว่า 3,000 คน
ที่เคยต่อสู้เรียกร้องร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2546
ก็จะเข้าไปบุกยึดพื้นที่ป่าที่บริษัทเอกชนจะหมดสัญญาเช่าที่มีอยู่กว่า
23,000 ไร่ เช่นกัน

"ที่ ผ่านมา ทางแกนนำ
และชาวบ้านได้ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนของทางภาครัฐมาโดยตลอด
แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรม
จึงยืนยันว่าหากทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ
ชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินกว่า 3,000 คน
ก็จะเข้าไปบุกยึดพื้นที่ป่าดังกล่าวทันที
หรืออาจมีมาตรการในการเคลื่อนไหวอื่นๆ อีก จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
และได้รับการช่วยเหลือจากทางภาครัฐอย่างจริงจัง" นายสมนึก กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น