วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พันธมิตรฯบุรีรัมย์ เห็นชอบตั้งสภา พธม.จังหวัดประสานงานเชื่อมตำบล-อำเภอ

พันธมิตรฯบุรีรัมย์ เกือบทุกอำเภอร่วมสัมมนา ที่ค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ
หนุนจัดตั้ง สภาพันธมิตรฯจังหวัด เป็นองค์กรประสานงานเชื่อมโยงอำเภอ-ตำบล
รอจัดตั้งคณะทำงานและเลือกประธานเป็นขั้นต่อไป ด้าน อ.สมเกียรติ
ร่วมบรรยายให้ความรู้ แซวคนบุรีรัมย์อดทนเป็นเยี่ยม
ยอมอยู่ใต้การควบคุมของนักการเมืองเพียงคนเดียว

ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของวันที่ 24 มิถุนายน
ชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากเกือบทุกอำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์
ได้ทยอยเดินทางเข้าสู่ค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ อำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์
กันอย่างคึกคัก เพื่อร่วมการสัมมนาจัดตั้งสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จังหวัดบุรีรัมย์ และปรากฏว่า ในช่วงการสัมมนา มีพันธมิตรฯ เกือบ 400
คนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้น จนสิ้นสุดการสัมมนาเมื่อเวลา
17.00 น.นอกจากพันธมิตรฯจากบุรีรัมย์แล้ว ยังมีพันธมิตรฯ
จากจังหวัดใกล้เคียงก็เดินทางมาร่วมงานด้วย เช่น พันธมิตรฯจากอำเภอพิมาย
และอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา

นายปราโมทย์ หอยมุกข์ เจ้าของค่ายมวยหนองกี่พาหุยุทธ
ค่ายมวยไทยชื่อดังของบุรีรัมย์และของเมืองไทย เปิดเผยว่า
ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาของพันธมิตรฯหนองกี่
ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องสถานที่จัดสัมมนา
โดยได้จัดเตรียมสถานที่ไว้เตรียมรับเพื่อนพันธมิตรจากทุกอำเภอ รวม 23
อำเภอ ประมาณ 500 คน เป้าหมายหลักของงานวันนี้ คือ
ต้องจัดตั้งสภาพันธมิตรฯจังหวัดบุรีรัมย์ ให้สำเร็จ
และถือโอกาสที่พี่น้องมากันแล้วให้ได้ความรู้ทางการเมืองกลับบ้าน จึงเชิญ
อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ มาบรรยายในตอนเย็นด้วย

นายเสฎวุฒิ ชมภูพงษ์ เลขาธิการพันธมิตรฯ อำเภอเมืองบุรีรัมย์
กล่าวภายหลังการสัมมนาว่า สภาพันธมิตรฯจังหวัด
มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานการเมืองแบบใหม่
ที่จะต้องมาถึงภายในเร็วๆ นี้ หากมีพันธมิตรฯ ระดับอำเภอไม่ครบทุกอำเภอ
ย่อมยากที่จะเชื่อมลงไปถึงระดับ ตำบล หมู่บ้าน นอกจากนั้น
ยังต้องมีสภาพันธมิตรฯระดับจังหวัดด้วย
เพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรประสานงาน
วันนี้การสัมมนาถือว่าก้าวหน้าไปอย่างน่าพอใจ
ยังขาดแต่ขั้นตอนการเลือกประธานและคณะทำงานระดับจังหวัดเท่านั้น
ซึ่งกำหนดจะเลือกตั้งในในเร็วๆ นี้

สำหรับภาคการบรรยาย เริ่มในเวลา 17.30 น.โดย นายเทิดภูมิ ใจดี
ทำหน้าที่บรรยายในช่วงแรก
เนื้อหาส่วนใหญ่พูดถึงชีวิตการต่อสู้ของตนในขบวนต่อสู้ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
โดยย้ำว่าพลังของประชาชน คือ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงสังคม
ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใด

จนกระทั่งเวลา 18.00 น.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นบรรยาย
โดยได้พูดถึงอดีตของตนที่เกี่ยวพันกับจังหวัดบุรีรัมย์
คนบุรีรัมย์และองค์กรชาวบ้านในบุรีรัมย์
ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติการต่อสู้ทางการเมือง เช่น
การปะทะกันด้วยกำลังอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
การต่อสู้ประท้วงของชาวนาชาวไร่ การรักษาทรัพยากรป่าไม้ของพระประจักษ์
คุตตจิตโต แห่งสำนักสงฆ์ป่าดงใหญ่ รวมทั้งสองครูนักต่อสู้อย่าง ครูทิม
บุญอิ้ง และ ครูสมใจ อุตรวิเชียร ที่ถูกยิงเสียชีวิต ล้วนแต่มีคุณค่า
มีเกียรติประวัติที่น่ายกย่องทั้งสิ้น แต่วันนี้คนบุรีรัมย์ทั้งจังหวัด
ทำไมจึงตกอยู่ภายในอิทธิพลของนักการเมืองเพียงคนเดียว ตระกูลเดียว
ไม่รู้ทนกันได้อย่างไร ไม่รู้ว่าพลังแห่งการต่อสู้หายไปไหนหมด
และไม่รู้ว่าจะปลดแอกได้ในวันใด

นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงการเมืองในสภาผู้แทนฯ ว่า ค่อนข้างหดหู่
ไม่มีอะไรดีขึ้นงบประมาณไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ และงบอะไรต่างๆ นานา
ที่ทุ่มลงไป กลับหายจ๋อยไม่มีวี่แววหรือเสียงสะท้อนออกมาเลย

สำหรับพรรคการเมืองใหม่ นายสมเกียรติ บอกว่า แกนนำทั้ง 5
คนตกลงกันแล้วว่า จะไม่ลงเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในครั้งนี้อย่างแน่นอน
ส่วนการคัดเลือกผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในแต่ละจังหวัด
ถือว่าเป็นหน้าที่ของพันธมิตรฯ
จังหวัดที่จะเป็นผู้เสนอชื่อของผู้ที่จะลงเลือกตั้งส่งไปที่พรรคการเมือง
ใหม่ โดยพรรคการเมืองใหม่จะไม่เป็นฝ่ายเสนอชื่อก่อนอย่างเด็ดขาด
จะทำอย่างเดียวเท่านั้นว่าจะเอาหรือไม่เอา หากไม่เอา
เพราะมีข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เหมาะสม ทางพันธมิตรฯจังหวัด
ก็ต้องไปสรรหาใหม่แล้วส่งมาอีกครั้ง

การบรรยายของ นายสมเกียรติ เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 19.30
น.หลังจากนั้น เป็นการรับประทานอาหารและร้องเพลงของชาวพันธมิตรฯ
และการพูดคุยสังสรรค์จนดึกจึงเลิกงาน

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072133

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น