วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เสี่ยขายโลงศพบุรีรัมย์เผ่นหนีบ้านเช่าเฮี้ยน - ตร.เร่งคลี่ปมเพลิงไหม้ปริศนา 40 ครั้ง

บุรีรัมย์ - เสี่ยขายโลงศพบุรีรัมย์พร้อมครอบครัวและลูกน้อง
ขนข้าวของย้ายออกจากบ้านเช่าเฮี้ยนแล้ว
หวั่นเป็นอันตรายและทรัพย์สินเสียหายซ้ำอีก
หลังเกิดไฟไหม้ไม่ทราบสาเหตุมากกว่า 40 ครั้ง
ขณะตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนคลี่ปมเพลิงไหม้ปริศนา

วันนี้ (1 ก.ค. ) เมื่อเวลา 12.00 น. นายวิฑูรย์ ชื่นจิต อายุ 25
ปี เสี่ยหนุ่มขายโลงศพและรับจัดงานศพแบบครบวงจร พร้อมครอบครัวและลูกน้อง
ได้เร่งช่วยกันเก็บข้าวของย้ายออกจากบ้านเช่า เลขที่ 85 ม.10 บ.หัวลิง
ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่เชื่อว่าเป็นบ้านอาถรรพ์
กลับไปยังบ้านเช่าหลังเดิมที่ อ.ลำปลายมาศ
ที่ถูกลอบวางเพลิงเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จนวอดเสียหายทั้ง 4 คูหาแล้ว
ถึงแม้จะยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมก็ตาม

ทั้งนี้เนื่องจากเกรงหากยังเช่าอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวต่อไปจะ
ได้รับอันตราย และทรัพย์สินเสียหายมากกว่านี้
หลังได้เกิดเพลิงไหม้ภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าวโดยไม่ทราบสาเหตุมากกว่า
40 ครั้งภายในเดือนเดียว และยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง
จนคนในครอบครัวเกิดความหวาดผวา และล่าสุดลูกน้องได้ลาออกไปแล้วถึง 4 คน

นอกจากนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้ธุรกิจขายโลงศพและรับจัดงานศพ ของนายวิฑูรย์
ได้รับผลกระทบมากกว่า 80 % คิดเป็นมูลค่าทั้งค่าเสียโอกาส
ด้านธุรกิจและทรัพย์สินที่ถูกไฟไหม้เสียหายไม่น้อยกว่า 600,000 บาท

อย่างไรก็ตามหลังจากที่กล้องวงจรปิด
ที่ติดตั้งไว้รอบบริเวณบ้านทั้ง 4 ตัว
ไม่สามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุลอบวางเพลิงภายในบ้านได้
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 30 มิ.ย.52) นายวิฑูรย์ จึงได้ย้ายกล้องวงจรปิดจำนวน
3 ตัว เข้ามาติดตั้งไว้ภายในบ้าน เพื่อจับภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้ภายในบ้าน
ส่วนอีก 1 ตัวติดไว้ที่บริเวณทางเข้าออกหน้าบ้าน
แต่ก็ยังไม่สามารถจับภาพคนร้าย หรือภาพขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้
มีเพียงภาพคนภายในบ้านเดินไปมาเท่านั้น

ขณะที่ชาวบ้านก็ยังมายืนออเพื่อรอดูเหตุการณ์เพลิงไหม้อยู่บริเวณ
หน้าบ้านเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน จน นายวิฑูรย์ ต้องนำป้าย
"บุคคลภายนอกห้ามเข้า" มาติดไว้ประตูรั้วหน้าบ้าน
เพราะส่งผลกับการดำเนินชีวิตของคนในครอบครัว

ทางด้าน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้กำกับการสภ.เมืองบุรีรัมย์
กล่าวว่า คดีเพลิงไหม้ปริศนาในบ้านเช่าที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเกิดจากอาถรรพ์
หรือไสยศาสตร์นั้น
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องทำการสืบสวนสอบสวนไปตามขั้นตอน
และขณะนี้ก็ได้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนไปสืบสวนหาข่าวในพื้นที่
เพื่อเร่งคลี่ปมเพลิงไหม้ปริศนาในบ้านอาถรรพ์ดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว เพราะ
พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์
ได้กำชับให้ติดตามสืบสวนสอบสวนเป็นพิเศษ
เนื่องจากคดีในลักษณะนี้ยังไม่เคยเกิดมาก่อน
และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หากสืบสวนสอบสวนพบว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น
เป็นการสร้างสถานการณ์ หรือลอบวางเพลิงของกลุ่มบุคคลใดก็ตาม
ก็จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย

ดร.สมหมาย ปะติตังโข หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
หากมองในด้านวิทยาศาสตร์ ก่อนเกิดเพลิงไหม้ได้ต้องมีสิ่งที่เป็นเชื้อไฟ
หรือสารเคมีบางอย่าง เช่น สารออกซิไดหรือสารรีดิว
เกิดการสันดาปกับอิเล็กตรอนและเกิดปฏิกิริยาว่องไวต่อแสง
จึงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ การเกิดไฟไหม้ขึ้นเองคงเป็นไปไม่ได้
โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ไม่มีสิ่งที่จะทำปฏิกิริยาได้
เพราะจากการสำรวจดูแล้วสายไฟฟ้าภายในบ้านก็ถูกตัดขาดทั้งหมด
ส่วนมีความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์นั้นควรจะใช้วิจารณญาณว่าควรเชื่อหรือไม่


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000074604

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น